โรคข้อเข่าเสื่อมคืออะไร? (Primary Knee Osteoarthritis) – อาการ สาเหตุ และวิธีรักษา

luxkor Hospital
>
โรคข้อเข่าเสื่อมคืออะไร? (Primary Knee Osteoarthritis) – อาการ สาเหตุ และวิธีรักษา
โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อ

โรคข้อเข่าเสื่อมคืออะไร? (Primary Knee Osteoarthritis) – อาการ สาเหตุ และวิธีรักษา

โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสลายของกระดูกอ่อนผิวข้อ โดยปกติแล้วกระดูกอ่อนผิวข้อทำหน้าที่เหมือนเบาะรองรับแรงกระแทก และช่วยให้การเคลื่อนไหวของข้อเข่าเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เมื่อกระดูกอ่อนบางลงหรือสึกหายไป เวลาเคลื่อนไหว กระดูกต้นขาจะเสียดสีกับกระดูกหน้าแข้งโดยตรง ส่งผลให้เกิดอาการปวด บวม และข้อเข่าติดแข็ง

หากไม่ได้รับการรักษา โรคข้อเข่าเสื่อมอาจทำให้เข่าโก่งหรือผิดรูป เคลื่อนไหวได้จำกัด และสูญเสียความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเดินขึ้นลงบันได การนั่งยอง หรือแม้กระทั่งการเดินในระยะทางสั้น ๆ

สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม

โรคข้อเข่าเสื่อมสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ข้อเข่าเสื่อมแบบปฐมภูมิ และ ข้อเข่าเสื่อมแบบทุติยภูมิ

ข้อเข่าเสื่อมแบบปฐมภูมิ (Primary Knee Osteoarthritis)

เป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามอายุ โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดได้ง่ายขึ้น ได้แก่

  • อายุที่มากขึ้น เป็นปัจจัยที่พบได้บ่อยที่สุด กระดูกอ่อนและกล้ามเนื้อรอบข้อเสื่อมลงตามวัย
  • เพศหญิง  พบมากกว่าเพศชาย 2–3 เท่า โดยเฉพาะหลังหมดประจำเดือน เนื่องจากขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยป้องกันความเสื่อมของกระดูกอ่อน
  • กรรมพันธุ์ คนที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น แม้ไม่ใช่การถ่ายทอดทางพันธุกรรมโดยตรง
  • น้ำหนักตัวเกินหรือโรคอ้วน ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดการเสื่อมเร็วขึ้น
  • การใช้งานข้อเข่าไม่เหมาะสม เช่น ยืนหรือเดินนาน ๆ การยกของหนัก การนั่งพับเพียบ หรือนั่งยองซ้ำ ๆ

ข้อเข่าเสื่อมแบบทุติยภูมิ (Secondary Knee Osteoarthritis)

เกิดจากสาเหตุที่ทราบแน่ชัด เช่น

  • อุบัติเหตุ การบาดเจ็บที่ข้อเข่า เช่น กระดูกหัก เอ็นฉีกขาด หรือหมอนรองกระดูกฉีก อาจทำให้เกิดความเสียหายถาวรและนำไปสู่ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น
  • โรคข้ออักเสบ:เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคเกาต์ หรือข้อเข่าเคยติดเชื้อ ส่งผลให้ข้อเข่าอักเสบเรื้อรังและเกิดการเสื่อมในที่สุด

อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม

โรคข้อเข่าเสื่อมมักมีการดำเนินโรคอย่างช้า ๆ ผู้ป่วยอาจไม่ทันสังเกตความผิดปกติในระยะแรก แต่เมื่อโรคพัฒนาขึ้น จะเริ่มมีอาการดังนี้

  • ปวดเข่า เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด โดยมักปวดเป็น ๆ หาย ๆ สัมพันธ์กับการใช้งาน เช่น ปวดเวลาเดินขึ้นลงบันได หรือนั่งยอง
  • มีเสียงกรอบแกรบ (Crepitus): เกิดจากการเสียดสีของผิวข้อเมื่อกระดูกอ่อนบางลง
  • ข้อเข่าติดแข็ง งอหรือเหยียดไม่สุด ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก
  • ข้อเข่าบวม อุ่น เนื่องจากการอักเสบภายในข้อ
  • ข้อเข่าผิดรูป เช่น ขาโก่ง ขาบิด ทำให้เดินผิดปกติและอาจเสียความสมดุล

อาการเหล่านี้หากปล่อยทิ้งไว้นาน ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวด แต่ยังลดคุณภาพชีวิตอย่างมาก

วิธีรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมแบ่งออกเป็น 2 แนวทางหลัก ได้แก่ การรักษาโดยไม่ผ่าตัด และ การรักษาโดยการผ่าตัด

การรักษาโดยไม่ผ่าตัด

เหมาะสำหรับผู้ป่วยระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง หรือผู้ที่ยังไม่พร้อมรับการผ่าตัด

  • การใช้ยา: เช่น ยาแก้ปวดหรือยาลดการอักเสบกลุ่ม NSAIDs
  • การปรับพฤติกรรม: ควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงท่าที่ลงน้ำหนักมาก เช่น การนั่งยอง ใช้สนับเข่าหรือไม้เท้าช่วยพยุง
  • การออกกำลังกาย: เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อ เช่น การยืดเหยียดเบา ๆ ปั่นจักรยานอากาศ หรือว่ายน้ำ
  • กายภาพบำบัด: ใช้เครื่องมือบรรเทาอาการปวด และฝึกการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง
  • การรักษาทางเลือก: เช่น การฝังเข็ม การนวดบำบัด การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) เพื่อกระตุ้นการฟื้นฟู

การรักษาโดยการผ่าตัด

แนะนำในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอนุรักษ์นิยม

  • การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Knee Arthroplasty): เป็นวิธีที่นิยมและได้ผลดี สามารถลดอาการปวดและแก้ไขข้อเข่าผิดรูปได้
  • การผ่าตัดเปลี่ยนแนวกระดูก (Osteotomy): เหมาะสำหรับผู้ป่วยอายุน้อยที่มีข้อเข่าเสื่อมเฉพาะบางส่วน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคข้อเข่าเสื่อม

Q: โรคข้อเข่าเสื่อมรักษาหายขาดได้หรือไม่?
A: โรคข้อเข่าเสื่อมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถชะลอการเสื่อมและบรรเทาอาการได้ หากดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ

Q: ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมควรออกกำลังกายแบบไหน?
A: ควรเลือกการออกกำลังกายที่ไม่ลงน้ำหนักมาก เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยานอากาศ เดินบนพื้นเรียบ และควรหลีกเลี่ยงการวิ่งหรือการกระโดด

Q: ควรพบแพทย์เมื่อไหร่?
A: หากมีอาการปวดเข่าต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์ ข้อเข่าบวมผิดปกติ หรือเดินลำบาก ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษา

สรุป

โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก แม้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะช่วยบรรเทาอาการและชะลอความเสื่อมได้

หากคุณหรือคนใกล้ตัวเริ่มมีอาการปวดเข่า ข้อเข่าติด หรือเคลื่อนไหวลำบาก ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการดูแลที่เหมาะสม

 โรงพยาบาลรักษ์ข้อ พร้อมดูแลสุขภาพข้อเข่าของคุณ ด้วยทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
แผนกกระดูกและข้อ
โปรแกรมผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมด

 สอบถามเพิ่มเติม หรือนัดหมายปรึกษาทีมแพทย์เฉพาะทาง โทร: 02-017-0999
หรือจองแพ็กเกจได้ที่ Line : @luxkorhospital

ผู้เขียนบทความ

นพ.วิทวัส มิ่งมงคลชัยกุล

ข้อมูลแพทย์

Related Posts

การตรวจความหนาแน่นกระดูกด้วยเครื่อง DXA เพื่อวินิจฉัยโรคกระดูกพรุน
อาการโรคกระดูกพรุน เราจะรู้ได้อย่างไร? การวินิจฉัยและแนวทางตรวจรักษา
โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อ
โรคข้อเข่าเสื่อมคืออะไร? (Primary Knee Osteoarthritis) – อาการ สาเหตุ และวิธีรักษา
การประเมินความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ
การประเมินความเสี่ยงและสาเหตุของโรคกระดูกพรุน 
ชวนสังเกต! กระดูกสันหลังคด (Scoliosis) อาการสัญญาณ และวิธีป้องกัน
ชวนสังเกต ‘กระดูกสันหลังคด’ อยู่หรือเปล่า?
Shopping Cart
Scroll to Top